1.03.2559

ข้อคิดการทำงาน 4 ข้อ...ที่หัวหน้าควรส่งไปให้ลูกน้องอ่าน...


วันนี้ไม่ได้หา Article มาแปลสู่กันนะครับ

ขอหยิบ note ตัวหนึ่ง ที่ผมได้แชร์ให้กับน้องๆ ในทีม...เป็นข้อคิดเกี่ยวกับการทำงาน...
ส่วนใหญ่ก็กลั่นกรองมาจากสิ่งที่ผมได้ประสบมาด้วยตัวเองทั้งสิ้น

พอมาย้อนอ่านดู...ก็เห็นว่า...เออ...มันอาจมีประโยชน์กับคนทำงานคนอื่นเหมือนกันนะ....

บทความนี้...น่าจะเหมาะกับคนที่เริ่มทำงานมาไม่นานมากนัก...กำลังค้นหาตัวเอง...และเชื่อว่าคงมีคำถามในใจอยู่ไม่น้อย...ว่า...ต้องทำงานอย่างไรจึงจะก้าวหน้าได้

ด้วยพื้นที่ที่มี...นี่คงไม่ใช่ทั้งหมด...และประสบการณ์ผมเองก็น้อยนิดนัก...แต่เชื่อว่าคงให้อะไรกับคนอ่านบ้างครับ...


------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คิดอะไรดีๆ ได้สี่เรื่อง เกี่ยวกับวิธีคิด ในการทำงาน



เรื่องที่หนึ่ง: คาดหวังสูง - คาดหวังต่ำ

คนคาดหวังสูง (aim high) มักจะใช้ความพยายาม (extra afford) มากกว่าคนทั่วไป...บ่อยครั้งถูกมองว่าโง่...เพราะทำอะไรเยอะไปหมด...แต่ถ้าการทำเยอะนั้น...ทำอย่างมีระบบ คือ...ทำความเข้าใจสถานการณ์ ธุรกิจ --> วางแผนล่วงหน้า...ใส่ความคิดสร้างสรรค์...ตั้งสมมติฐาน --> ลงมือทำ...เรียนรู้เหตุที่ทำให้เกิดทั้งผลสำเร็จและล้มเหลว --> ปรับปรุง เริ่มต้นใหม่....อย่างนี้...อนาคตเจริญแน่นอน...

ขณะที่คนคาดหวังต่ำมักไม่ค่อยเปลี่ยนวิธีการ...สุดท้ายเหตุไม่เปลี่ยน...ผลไม่เปลี่ยน....ได้แต่ถอยหลังลงอย่างช้าๆ
การตั้งเป้าหรือคาดหวังสูงจะช่วยดึงศักยภาพของพวกเราทุกคนออกมาเอง...แต่ต้องควบคู่กับการหาความรู้ใส่หัวเพิ่มด้วย....


เรื่องที่สอง: รู้หน้าที่ ตำแหน่งที่ต้องเล่น และรักษาพื้นที่

เรื่องนี้อธิบายง่าย...ถ้าคุณรักษาพื้นที่ของคุณดี...หัวหน้าก็ควรจะไปทำหน้าที่พัฒนาและดูแลการเติบโตของคุณ...ได้ไปกรุยทางข้างหน้า...แต่ถ้าคุณรักษาพื้นที่คุณไม่ดี...รักษาไม่ได้...คนเป็นหัวหน้าก็ต้องถอยมาช่วยอุดรอยรั่ว....แล้วใครจะคอยดูแลอนาคตของพวกคุณ?

ทหาร...นักฟุตบอล...นักบาส...ทุกคนต้องพยายามรักษาพื้นที่หน้างานตัวเองสุดชีวิต...บางช่วงอาจแผ่ว...เพื่อนต้องช่วยเติม...บางครั้งเมื่อเราแข็งแรง...ก็ต้องช่วยประคองเพื่อน

ช่วยรักษาพื้นที่ของคุณครับ
ต้องไว้ใจหัวหน้าและทีมผู้บริหารเรื่องการดูแลการเติบโต....ปกติแล้วผู้ใหญ่เขาเห็น....แต่พวกเขาคงไม่สามารถให้ทุกคนได้ทุกอย่างพร้อมๆ กัน...หน้าที่เราไม่ใช่มานั่งสงสัย...แต่ควรเอาเวลาไปสร้างผลงานที่แตกต่าง...เมื่อโอกาสมาถึงผู้ใหญ่สามารถหยิบผลงานคุณไปเสนอได้ทันที

เรื่องที่สาม: โปรแกรมตรวจสอบ และพัฒนาตัวเอง

คุณดาวน์โหลด...และติดตั้ง software เหล่านี้ในระบบความคิดของพวกคุณแล้วหรือยัง?

ถ้างานเยอะ...ยุ่ง...และเป็นเรื่องเดิมๆ ตลอด --> แสดงว่าวิธีการบางอย่างไม่ถูกต้องแน่ๆ...แต่คุณฉุกคิดบ้างไหม?
คุณสามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้...แต่ต้องใช้พลังความคิด...ต้องลงแรง...เหมือนว่ายทวนน้ำ...
มันไม่มีปัญหาอะไรที่แก้ง่ายๆ...ไม่งั้นทุกคนก็เป็น CEO เป็นเถ้าแก่รวยๆ กันหมดแล้ว...

ถ้าทำกี่ทีก็แก้ปัญหาไม่ได้...เพราะไม่ได้เปลี่ยนวิธีการ...ไม่ได้แม้แต่ลองเปลี่ยน...หรืออาจไม่คิดจะเปลี่ยนเลย...
ลองตรวจสอบตัวเองดูครับ...
ที่เราไม่เคยเปลี่ยนวิธีเพราะ....ไม่ได้ใส่อะไรในหัวเพิ่มใช่ไหม...

ทำงานอะไรก็แล้วแต่...ต้องบริโภค...ข้อมูลข่าวสาร...และประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

ท้อแท้...ทำไมไม่โต...ไม่เลื่อนตำแหน่ง --> คิดถึงตัวเองมากไป...คนที่เค้าเติบโต...เค้าคิดถึงส่วนรวมและเสียสละ

ตอนคิดถึงตัวเอง...เราจะขี้เหนียว...ขี้เกียจ...ขี้กลัว...ผลงานมันก็ออกมาแบบแกนๆ...และพอไม่ได้อย่างหวัง...ก็จิตตก

ถ้าเราคิดถึงส่วนรวม...เราจะกล้าหาญ...จะเสียสละ...การกระทำจะห้าวหาญขึ้น...ผลงานที่ออกมาก็จะมีความแตกต่าง งานออกมาก็ภูมิใจ...รู้สึกว่าในหัวใจมันเต็ม...พอใจตัวเอง...เวลานั้นผลงานกับเงินมันจะตามมาเองแหละ

อยากสบาย...ทำไมงานเราเยอะ...เหนื่อย --> ดีกว่าไม่มีงานทำนะ

บริษัทไม่ดูแลไม่พัฒนาหรือเปล่า?...ผมเห็นคนที่เรียนสูง...อบรมมาทุกค่าย...สุดท้ายโง่เหมือนเดิมเยอะแยะ....คนจบ ป.4 เป็นเศรษฐี...จ้าง ดร. มาทำงานให้...แถมด่า ดร.ได้อีก......การเรียนมันไม่ได้การันตีความเก่ง....ความรู้มีอยู่รอบตัว...แค่คุณต้องรู้ว่า...คุณอยากมุ่งไปไหน...สังเกต...ตั้งคำถาม...และค้นคว้าทดลอง

สารพัดข้ออ้างของคนที่จะไม่ก้าวหน้าน่ะ.....มันมีให้อ้างเยอะ...


เรื่องที่สี่: ตูดติดเบาะ รากงอก ไม่อ่านหนังสือ

ออกไปหาอะไรใหม่ๆ...บ้างเห้อะ
เดิน...อิเกีย...โฮมโปร...ซีเอ็ด...Kinokuniya....สารพัดร้าน...มันจะทำให้ฉลาดกว่านั่งๆ ให้เวลามันเสียไปที่ office นะ
เราควรจะชอบตั้งคำถามกับทุกอย่างในชีวิต...จนบางทีก็น่ารำคาญ....แต่คำถามที่ฉลาด...ก็นำมาซึ่งคำตอบที่ฉลาด
นักการตลาด, วิศวกร, ฝ่ายวางแผน...ฯลฯ...ทุกคนควรจะตั้งคำถามทั้งนั้น...

เอาตัวออกไปเจอ input ที่สดใหม่...ตั้งคำถาม...วิเคราะห์...ได้คำตอบ...พัฒนาเป็นไอเดีย...ลองทำ....
เช่น sales promotion ต่อให้ไม่ได้จบการตลาดมา...ก็เรียนรู้ได้ด้วยการสังเกตพวกป้ายพวกแบนเนอร์ของสินค้าต่างๆ ในห้าง...และถามตัวเองว่าเค้ากำลังจะทำอะไร...แล้วก้อ ....อ๋อ.....เข้าใจละ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเขียนออกมา...ก็คงไม่ต่างจากคนเป็นหัวหน้าทุกคน...
และกว่าเราจะมาเป็นหัวหน้ากัน...ก็คงเคยทั้งทำถูกทำผิดกันมาแล้วทั้งนั้น....ใช่ไหมครับ
ถ้าเราพูดเรื่องนี้กับน้องๆ....ก็ไม่ใช่จะทำเบ่งสอน...แต่ประมาณว่า...พี่ก็พลาดมาก่อนนะไอ้น้อง...

ผมไม่บังอาจแม้แต่จะคิด...ว่า Article นี้คือการสอนนะครับ...ผมเชื่อว่าคนที่อ่าน...ก็คิดเหมือนกัน

ประโยชน์ของบทความนี้คืออะไร....555....คือแทนที่จะต้องไปนั่งเขียนเอง....copy...ที่ผมเขียนส่งให้น้องๆได้เลย
ลดเวลาไปได้เยอะไงครับ....

(ส่วนผมเอง...วันไหนลูกน้องใหม่มา...ก็ว่าจะส่ง Link นี้ให้อ่านล่ะครับ...ประหยัดเวลาดี...)


ขอเอาใจช่วยทุกคนครับ ^ ^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น