1.04.2559

พนักงานยุคใหม่...ใช้ Social Media อย่างไร...ไม่ให้พลาดเอง...

วันนี้ยังคงมาแนวเดิมครับ

มีใครที่ต้องคอยสอนคอยเตือนลูกน้องให้ใช้ Social media อย่างเหมาะสมบ้างไหมครับ

หลายๆ ครั้งน้องๆ เราก็ใช้ Social Media ส่วนตัวนี่แหละ...แต่ใช้ไปใช้มาดันเกิดความเสี่ยงต่องานหรือบริษัทขึ้นมาซะงั้น...ซึ่งผมคงไม่ขอท้าวความถึงสาเหตุซึ่งมีมากมาย...

โดยส่วนตัวผม...คิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี...และเขาก็คิดว่าที่เขาทำ...เขาทำบนพื้นที่ส่วนตัวบนโลกออนไลน์ของเขา...มันก็น่าจะเป็นสิทธิ์ของเขา...

หลายๆ ท่านก็คงจะมีประสบการณ์และวิธีการเตือนที่ดีอยู่แล้ว

บทความนี้...ความตั้งใจคือ...เผื่อท่านอยากเตือนแต่ก็รู้สึกขี้เกียจพิมพ์ยาวๆ....หรือไม่มีเวลา....

Copy แล้วส่งให้น้องๆ ได้เลยครับ
ลองใช้มาแล้ว...พอได้ครับ...พอได้....
เป็นข้อความที่ผมเขียนเอง...เอามาแชร์กันครับ...ผมว่าทำแบบนี้ประหยัดดีนะครับ....ท่านอาจแชร์ของท่านบ้างก็ได้นะครับ...เราแบ่งกันเอาไปใช้ได้... ^ ^

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


พนักงานมือโปรอย่างเรา...ต้องใช้ Social Media ช่วยเพิ่มผลงาน....มิใช่สร้างปัญหาเพิ่ม



ไม่ควรเล่นบทเจ้าภาพฝ่ายโฆษณาเอง

ไม่ควร post ข้อมูลในเชิงโฆษณาให้สินค้าหรือบริษัท...ในนามของตัวเอง...ที่เหมาะสมที่สุดคือการ share จาก official feed ครับ...และที่ไม่ควรใช้ social media ส่วนตัว...ก็เพราะเราเองนี่แหละ...จะเป็นฝ่ายเสียความเป็นส่วนตัวไปครับ



ส่งข่าวได้...โปรโมทได้...แต่ต้องให้ SMART

กรณีต้องการส่งข่าว...หรือโฆษณาไปให้ลูกค้า...จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ทำได้...ถ้าทำอย่างเหมาะสม...และก็มี brand จำนวนมากที่เค้าทำกัน...เช่น...ทำเป็นแอบปล่อยข่าว...ข่าวรั่ว...แอบให้ข่าว...หรือส่งคนที่เรียกว่า...advocate...แทรกซึมเข้าไปสิงอยู่ตาม social group และคอยปล่อยข่าวอย่างที่องค์กรต้องการ ..... เหล่านี้มันเป็นกลยุทธ์....การตลาดแบบกองโจร....ถ้าใครทำเป็นและใช้อย่างเชี่ยวชาญแล้ว...มันจะมีประสิทธิผลมาก....

...แต่สำหรับท่านที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น...อย่าว่าแต่น้องๆเลย....พี่ๆ ก็ยังไม่เชี่ยวชาญ...ดังนั้น...ถ้ามีไอเดียจะทำการตลาดในรูปแบบนี้...ควรปรึกษาหารือกับฝ่ายการตลาดก่อนครับ....พวกทีมการตลาดเขาน่าจะส่งเสริมให้ทำด้วยซ้ำ....แต่แน่นอนว่าต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสอดคล้องกับแผนหลักในตอนนั้นด้วย...

บางครั้ง...ถึงแม้ไอเดียจะดีแค่ไหน...แต่ปล่อยผิดจังหวะไปมันก้อไม่ได้ช่วยให้ภาพรวมดีขึ้นนะครับ...



เราต้องไม่พลาดแบบเดิมๆ...ที่ชาวบ้านเค้าชอบพลาดกัน...

เหล่านี้คือสิ่งที่ไม่ควรทำและ....ในระดับสากลเค้าก็ห้ามกันเช่น:

ไม่ควรเอา brand logo, เรื่องราว, เหตุการณ์, ภาพภายในบริษัทไป postไปแปะไปใช้ใน social media ที่เป็นส่วนตัว

การ share ภาพสินค้า...งานแสดงสินค้า...ถ้าจะ share ควรทำในนามส่วนตัว...เสมือนเป็นผู้เข้าชมงานคนหนึ่ง...แต่ไม่ควร post ในนามพนักงานที่อยู่ในบริษัทฯ ...ในส่วนนั้นทีมกาตลาดควรจะเป็นผู้ทำเพียงคนเดียว....ทางที่ดี...ถ้าอยาก share...ให้ share link จาก official web หรือ official Facebook จะดีกว่าครับ

ไม่ควรไปเปิด/ตั้ง web หรือ social group ในนามของ brand ด้วยตัวเองเพราะจะทำให้ข่าวที่ออกไปในตลาดสับสน

ไม่ควร post หรือแสดงความเห็นต่อบริษัท...สินค้า...แบรนด์...เพราะคนที่มาอ่านอาจรู้ว่าเราทำงานอยู่ที่นั่น...ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นที่ดี...หรือไม่ดี...ก็เสี่ยงต่อการทำให้เสียชื่อทั้งคู่

ไม่ควรช่วยตอบปัญหา...หรือช่วยโต้แย้งลูกค้าที่ post ต่อว่าบริษัท...สินค้า...หรือแบรนด์...เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของ admin ดีกว่าครับ....แต่อยากให้ทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตา...ถ้าเจอสิ่งผิดปกติ...สามารถ capture หน้าจอส่งมาให้ admin หรือทีมการตลาดดำเนินการได้เลยครับ

ไม่ควรวิจารณ์คู่แข่งหรือทำลายชื่อเสียงคู่แข่งออกสื่อ...เพราะ...เมื่อคนอ่านสืบรู้...คนที่เสียหายหนักเลย...ก็คือ brand  ของเรา...

ไม่ควรเอาเรื่องการทำงานไปคุยไปบ่นบนสื่อ public เช่น Facebook  เพราะมีคนเห็นเยอะ...บางครั้งเป็นการทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทหรือตราสินค้าเสียหายได้....เราอาจจะคิดว่า...ก็ไม่ได้เขียนชื่อเอ่ยนามบริษัทหรือสินค้าสักหน่อย...แต่ลองคิดดูว่า...แล้วไอ้คนที่มาโพสต์มาเม้นท์ต่อจากเราละ....เราคุมเค้าได้ที่ไหน...ใช่ไหมครับ

ไม่ควรคัดลอกรูปหรือข้อความของ brand อื่นมาโพสต์...เพราะ...อาจมีลิขสิทธิ์คุ้มครอง...การ share link สามารถทำได้และปลอดภัยกว่าเยอะ...



ควรศึกษาเรื่องการโฆษณาบนโลก social ไว้ครับ อย่ากลัว มันคือโลกอนาคต

ถึงแม้จะดูเหมือนมีข้อห้ามข้อควรระวังเยอะ...แต่ก็อย่าลืมว่าคนจำนวนมากมายใช้ช่องทางนี้อย่างชาญฉลาด...ทำกันจนร่ำรวยเยอะแยะครับ...แค่ว่า...เราไม่ควรซี้ซั้ว...ถ้าจะทำ...เราต้องศึกษาและทำอย่างมืออาชีพ



ตระหนักเสมอว่าเราทุกคนมีความรับผิดชอบต่อตราสินค้าและบริษัท

ข้อสุดท้ายนี้มันเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ เลยครับ...ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว...ถือเสียว่า...อ่านเพื่อทบทวนแล้วกันครับ

ตราบใดก็ตามที่เรายังรับเงินเดือนเขา...ไม่ว่าเราจะแฮปปี้..ไม่แฮปปี้...ก็แล้วแต่...เรามีหน้าที่ที่จะต้องช่วยระวังป้องกัน...ไม่ให้การกระทำใดๆ ก็แล้วแต่ของเรา...หรือแม้แต่ผลต่อเนื่องจากที่เราทำอะไรลงไป...เกิดเป็นผลเสียต่อตราสินค้าหรือชื่อเสียงของบริษัท...

อย่าลืมว่า...การเสียชื่อเสียง...เราไม่ได้เดือนร้อนคนเดียว....มันมีอีกกี่คน...กี่ครอบครัว...ที่เค้าก็ยังต้องฝากอนาคตไว้กับบริษัทนะครับ...


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


จบแล้ววว!!
พอไหวไหมครับ....
หวังว่าจะช่วยประหยัดเวลา...ประหยัดยาแก้ปวด...และยาแก้เจ็บคอกันได้นะครับ


ขอบพระคุณที่อ่านครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น